Home Book เรามีชีวิตที่ดีหรือยัง?

เรามีชีวิตที่ดีหรือยัง?

by khomkrit

บางคนอาจเคยตั้งคำถามว่าตอนนี้ เรามีชีวิตที่ดีหรือยัง ซึ่งจริงๆ แล้วก็มีหนังสือ และบทความต่างๆ เขียนอธิบายแนวทางในการหาคำตอบไว้มากมายอยู่แล้ว ซึ่งบทความนี้ก็ได้นำเสนออีกแนวทางเอาไว้ใช้ถามตัวเองเพื่อหาคำตอบว่า ตอนนี้เรามีชีวิตที่ดีหรือยัง

8 ข้อสำหรับใช้เช็คว่าเรานั้นก็พอมีชีวิตที่ดีเหมือนกันนะเนี่ย ได้แก่

  1. เรารู้สึกโอเคกับคนที่เราทำงานด้วย
  2. เรารู้ว่าทำไมเราถึงทำสิ่งที่เรากำลังทำอยู่
  3. เรามักตั้งใจทำงานอย่างสุดฝีมืออยู่เสมอ
  4. เรามอบสิ่งต่างๆ ให้คนอื่นอยู่เสมอ
  5. เราเคารพผู้อื่น
  6. เราไม่เอาความอิจฉามารบกวนจิตใจ
  7. เราพร้อมรับมือกับสิ่งที่เข้ามาในแต่ละวัน และเข้าใจว่ามันมักไม่เป็นไปดังที่คาดไว้แต่แรก
  8. เรามักมองเห็นเรื่องที่ทำให้เราหัวเราะได้เสมอในแต่ละวัน

Karen Nimmo นักจิตวิทยาคลินิก (Clinical psychologist) ได้เขียนแนวทาง 8 ข้อ ให้เราใช้ถามตัวเองว่าเรามีชีวิตที่ดีหรือยัง โดยเธอได้สรุปจากประสบการณ์ตอนที่เธอได้ไปทำงานที่อินเดีย

เธอเล่าว่าตอนที่เธอไปทำงานที่อินเดียนั้น เธอได้มองเห็นและเรียนรู้เกี่ยวกับบางอย่างเกี่ยวกับความสุขที่นั่น เธอพบเห็นผู้คนมากมายบนถนน อาคารบ้านเรือนเก่าๆ ผุพัง และผู้คนจำนวนมากที่ใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างถูกจำกัดการเข้าถึงบริการพื้นฐานต่างๆ ที่ควรจะได้

เธอเห็นผู้หญิงอินเดียตื่นแต่เช้า แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม พวกเขาทำงานทั้งวัน ทำอาหาร ขายอาหารบนถนน รายล้อมไปด้วย น้องสาว ป้า และผองเพื่อน พร้อมกับเด็กๆ ของพวกเขาที่กำลังวิ่งเล่นบนถนน

เธอรู้ว่าพวกเขาเหล่านั้นทรัพย์สินน้อยกว่าเธอ และชีวิตพวกเขานั้นยากลำบากแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังหัวเราะอย่างมีความสุขมากกว่าผู้คนที่เธอรู้จักตอนที่เธอกลับบ้านไปเจอเสียอีก ดูเหมือนพวกเขาจะปรับตัวให้เข้ากับชีวิตที่ดูเหมือนจะยากลำบากเหล่านั้น มากกว่าต่อต้านมัน และพวกเขาดูจะมีทักษะในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีเหล่านั้นได้

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเงินนั้นทำให้ชีวิตง่ายขึ้น มันช่วยทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้น แต่การวัดว่าชีวิตที่ดี ร่ำรวย และมีความสุขนั้นไม่ได้วัดจากเงินในธนาคารหรือขนาดของบ้านที่สวยงามใหญ่โต

มันวัดจากการที่เราใช้ชีวิตในแต่ละวันนี่แหละ ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม

four person standing at top of grassy mountain เรามีชีวิตที่ดีหรือยัง
Photo by Helena Lopes on Pexels.com

และนี่คือ 8 ข้อที่นักจิตวิทยาคนนี้ได้สรุปมาให้เราได้อ่านกัน

1. เรารู้สึกโอเคกับคนที่เรากำลังทำงานด้วย

ส่วนใหญ่แล้วเรามักใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงในแต่ละวันไปกับที่ทำงาน และนั่นอาจมากกว่าเวลาที่เราใช้ไปกับคนที่บ้านเสียอีก ซึ่งนั่นก็คือเราได้ใช้เวลาชีวิตไปกับคนที่เราไม่ได้เลือกที่จะอยู่ด้วยไปโดยปริยายตั้งแต่แรก เพราะตอนที่เราสมัครเข้ามาทำงาน เรารู้แค่ว่าเราจะเลือกงานแบบไหน แต่ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเราต้องเจอกับคนแบบไหนในที่ทำงาน

สำหรับบางคนแล้วเวลาที่บอกว่าไม่ชอบงานที่กำลังทำอยู่ ก็มักมีเบื้องหลังยึดโยงเรื่องอื่นนอกจากงาน เช่นเขาไม่ชอบหัวหน้าของเขา ไม่ชอบเพื่อนร่วมงาน หรือไม่สามารถเข้ากับสังคมที่เขาทำงานอยู่ได้ เพราะไลฟ์สไตล์ต่างกัน เป็นต้น

ดังนั้นถ้าเราได้ทำงานแล้วรู้สึกว่าเราโอเคกับทุกคนรอบๆ ตัวเรา นั่นก็นับว่าชีวิตเราดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

2. เรารู้ว่าทำไมเราถึงกำลังทำสิ่งที่เราทำอยู่

เหตุผลในการทำอะไรสักอย่างไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่อลังการ มันอาจจะเป็นแค่การที่เราสามารถเลี้ยงครอบครัวเราได้ หรือได้ช่วยเหลือ ทำประโยชน์ให้คนอื่นรอบตัวเรา ก็แค่นั้น ตราบใดที่สิ่งที่เรากำลังทำอยู่มันมีความหมายกับเรา อะไรก็ได้ทั้งนั้น

ถ้าเราไม่มีเหตุผลจริงๆ ที่จะทำให้เรามีแรงตื่นนอนออกไปทำอะไรบางอย่างในแต่ละวันแล้วล่ะก็ ชีวิตก็จะขาดแรงบันดาลใจ ขาดเป้าหมาย และขาดแรงผลักดัน ทำให้ชีวิตเราผ่านไปอีกวันด้วยการทำอะไรสักไปเรื่อยๆ ให้จบวันไป ไม่คิดอะไรมาก ชีวิตไร้ความหมาย

การใช้ชีวิตอย่างมีความหมายทำให้เรารู้สึกถึงคุณค่าของตัวเอง ดังนั้น การค้นหาว่า เรากำลังสิ่งที่เราทำอยู่นี้ไปทำไม ให้เจอ มันจะช่วยให้ชีวิตเรามีความหมายมากขึ้น

3. เราตั้งใจทำงานสุดฝีมือ ไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานอะไร

เมื่อเราต้องทำอะไร เราจะไม่ลักไก่ทำส่งๆ ให้เสร็จๆ ไป เรารู้สึกท้าทาย และให้เกียรติสิ่งที่เราทำไม่ว่างานนั้นเราต้องทำเพื่อตัวเราเอง หรือทำเพื่อคนอื่น หรือองค์กร ถึงแม้ว่างานนั้นจะเป็นงานที่เราไม่ชอบทำก็เถอะแต่เมื่อเราต้องทำ เราจะตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด และเมื่อผลงานออกมา เราจะรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำมันออกมาในท้ายที่สุด

เรื่องนี้มีหนังสื่อชื่อ หลักคิดที่คนญี่ปุ่นพกไปทำงานทุกวัน เขียนอธิบายไว้เช่นกัน

4. เรามอบสิ่งต่างๆ ให้คนรอบข้างอยู่เสมอ

แม้เราจะไม่ได้มีมากมาย แต่เราก็แบ่งปันสิ่งต่างๆ ให้คนอื่นเสมอเท่าที่จะทำได้ นี่หนทางในการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย ไม่ใช่ทางเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ

โลกของการแข่งกันในปัจจุบัน คนมักจะติดอยู่กับการที่เมื่อเราให้อะไรใคร เราต้องได้อะไรสักอย่างกลับมาตอบแทน ได้คำชม ได้ชื่อเสียง ได้อวด ได้แชร์ความดีของตัวเองในโซเชียลเน็ตเวิร์ค แต่แนวคิดนี้ทำให้เรายิ่งเครียด และกดดันตัวเองมากกว่ารู้สึกดีกับมัน เพราะเมื่อเราไม่ได้รับอะไรตอบกลับมา เราจะรู้สึกผิดหวัง

ความจริงก็คือ คนที่มีชีวิตที่ดี พวกเขาจะเป็นคนที่แบ่งปันเวลา พลัง ความช่วยเหลือ คำแนะนำ ความรู้ และสิ่งของโดยที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้อะไรตอบแทนจากคนรับกลับมาเป็นรางวัลเลย ขอแค่ได้ให้ พวกเขาก็พอใจแล้ว

5. เราแสดงออกถึงการเคารพผู้อื่น

การแสดงออกทางกายภาพอย่างง่ายๆ ถึงการเคารพผู้อื่นก็คือการแต่งตัวอย่างรู้กาลเทศะ ดูดี และเสมาะสมกับสถานการณ์อยู่เสมอ

การแต่งตัวบอกเป็นนัยได้ว่าเราเป็นอย่างไร นอกจากนี้เราเรารู้ด้วยว่า psysical appearance นั้นคือหนทางหนึ่งที่เราสามารถใช้แสดงออกได้ว่าเรานั้นให้เกียรติผู้อื่น

แนวคิดเกี่ยวกับการแต่งตัวให้ดีนี้ มีหนังสือชื่อ 34 พักผ่อนของคน productive เขียนอธิบายไว้เช่นกัน

6. เราไม่เอาความฉิจฉามารบกวนจิตใจ

เราพยายามที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของเราเพื่อตัวเราและเพื่อครอบครัวเรา ไม่ใช่เพื่อคนอื่นในอินสตาแกรม หรือเฟสบุ๊ค

ผู้คนจำนวนมากไม่ได้ชื่นชอบชีวิตของตัวเองเท่าไหร่นักเพราะว่าเขาติดอยู่ในกับดักของความต้องการที่มากขึ้นเรื่อยๆ มีให้เหมือนคนอื่น เพื่อเอามาอวดคนอื่น

ความอิจฉาคืออารมณ์ที่ไร้ประโยชน์สิ้นดี คนที่มีสุขภาพจิตดีจะมีความสุขกับสิ่งที่ หรือคนที่ตัวเองมีอยู่ตอนนี้ เวลาเห็นอะไรที่คนอื่นมีแต่ตัวเองไม่มีเขาจะรู้สึกเฉยๆ หรือรู้สึกยินดีตามไปด้วย หรืออย่างน้อยเขาก็ไม่ได้บอกกับตัวเองว่าเขาต้องมีเหมือนอย่างคนอื่นให้ได้ในที่สุด

คนเราทุกคนต่างมีด้านดีของตัวเอง มีสิ่งที่เราภาคภูมิใจในตัวเอง ค้นหามันให้เจอ สิ่งที่เราเห็นในโซเชียลเน็ตเวิร์คนั้นก็แค่ด้านดีๆ ที่คนอื่นเขาอยากให้เราเห็นเท่านั้นแหละ

7. เราเข้าใจและพร้อมรับมือกับสิ่งที่เจอในแต่ละวัน

เราก็แค่มองมัน สนุกไปกับมัน กับอะไรก็ตามที่เข้ามาในแต่ละวัน

ถึงแม้เราตื่นขึ้นมาในตอนเช้า และดูว่าวันนี้เราต้องทำอะไรบ้าง แต่การใช้ชีวิตมันอาจไม่ได้เป็นไปตามแผนของเราอย่างที่เราคิดไว้เสมอไป เราจึงควรเปิดโอกาสในการรับมือสิ่งใหม่ๆ ที่อาจต้องเจอในแต่ละวัน ปรับปรุงแผนการในการรับมือไปตามจังหวะชีวิต สิ่งที่เราจะต้องจำไว้ให้ดีอย่างหนึ่งก็คือ มันมักจะมีอะไรที่ไม่ได้คาดคิดเข้ามาในชีวิตเสมอ ดังนั้นจงเข้าใจ และโอนอ่อนปรับตัวพร้อมรับมืออยู่เสมอ

8. เรามักเจอเรื่องให้หัวเราะอยู่เสมอ

เรามักคิดอยู่เสมอว่า ในแต่ละวันเราต้องมีจังหวะเวลาชีวิตที่สนุกแฝงอยู่อย่างน้อยสักที่หนึ่ง เราเข้าใจมัน มีอารมขันไปกับมัน แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ก็ตาม มันต้องมีช่วงจังหวะผ่อนคลายอยู่ในทุกหนแห่ง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองหามันยังไง

การตอบคำถามว่า เรามีชีวิตที่ดีหรือยัง นั้นแต่ละคนก็มีวิธีหาคำตอบในแบบฉบับของตัวเอง แต่ละบทความ แต่ละแนวทางก็แตกต่างกันไป รวมถึงผลงานวิจัยบันลือโลกชิ้นนี้ของโรเบิร์ต วาลดิงเจอร์ เช่นกัน แต่สิ่งที่ผมเห็นว่าคล้ายคลึงกันมากที่สุดก็คือ การมีชีวิตที่ดีคือการมีชีวิตที่รายล้อมไปด้วยความสัมพันธ์ที่ดีกับคนใกล้ตัวเรา

ที่มา: 8 Signs You Have a Rich Life

You may also like