หยิบหนังสือ How Will You Measure Your Life? มาอ่าน แล้วก็ได้แง่คิดเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกที่น่าสนใจบางอย่าง บางทีเราก็เลี้ยงลูกแบบผิดๆ โดยไม่รู้ตัว เพราะคิดว่าเรากำลังทำดีที่สุดแล้ว
บางทีพอเราเลี้ยงลูกไป 4-5 ปี หันกลับมาดูอีกที แนวคิดของเราก็อาจจะเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว — สิ่งที่เคยให้ความสำคัญอาจไม่สำคัญอีกต่อไป หรือสิ่งที่เคยมองข้าม กลับกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
บทหนึ่งในหนังสือพูดถึงแนวคิดเก่าแก่ชื่อว่า ‘เรือของเธเซอุส’ ฟังดูไกลตัว แต่กลับทำให้เราคิดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในชีวิตของเราทุกวัน… และรวมถึงการเปลี่ยนแปลงแบบที่มองไม่เห็นในการเลี้ยงดูลูกด้วย
จุดเริ่มต้น: พ่อแม่ที่หวังดี แต่บางครั้งก็กำลังเตรียมลูกแบบผิดทาง
พ่อแม่ในยุคปัจจุบันต่างก็พยายามมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก พยายามส่งลูกไปเรียนพิเศษ คอร์สต่างๆ หรือหากิจกรรมพิเศษเพื่อพัฒนาเขาทุกด้าน คิดว่านี่คือการ “เตรียมพร้อม” ลูกให้ดีที่สุดสำหรับอนาคต
แต่คำถามคือ สิ่งที่เราทำเหล่านี้กำลังเสริม “ทักษะ” หรือกำลังทำลาย “สมรรถนะ” ที่สำคัญในตัวลูกกันแน่?
เรือของเธเซอุส: การเปลี่ยนชิ้นส่วนไปทีละนิด จนสุดท้ายไม่เหลือของเดิม
มีแนวคิดทางปรัชญาที่ชื่อว่า “เรือของเธเซอุส” (Theseus’ Ship) ซึ่งตั้งคำถามว่า:
ถ้าเรือของวีรบุรุษชื่อเธเซอุสถูกซ่อมแซมทีละชิ้น เปลี่ยนไม้กระดานทีละแผ่น จนวันหนึ่งไม่มีชิ้นส่วนเดิมเหลืออยู่เลย เรือที่เห็นยังใช่ “เรือเดิม” หรือไม่?
นี่เปรียบเสมือนชีวิตของลูกเรา หากเราคอยช่วยทุกอย่าง แก้ปัญหาแทน วางแผนแทน จัดการทุกเรื่องให้ จนลูกไม่มีโอกาสฝึกคิด ตัดสินใจ หรือจัดการชีวิตเอง วันหนึ่งเขาจะเป็น “คนที่ดีพร้อม” แต่ไม่ใช่ “ตัวเขาเอง” เพราะทุกส่วนถูกเปลี่ยนโดยพ่อแม่ไปหมดแล้ว
เดลล์ กับ โศกนาฏกรรมแห่งการเอาท์ซอร์ส: ทำให้เห็นอันตรายที่มองไม่เห็น
เรื่องราวของบริษัท Dell เป็นอุทาหรณ์ในเชิงธุรกิจที่สามารถสะท้อนถึงการเลี้ยงลูกได้ดี
ในยุค 90s เดลล์คือบริษัทพีซีอันดับต้นๆ ของโลก ด้วยโมเดลที่ฉลาด ขายตรง ประกอบตามสั่ง จัดส่งรวดเร็ว และใช้ทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
แต่สิ่งหนึ่งที่เดลล์ทำคือ “การเอาท์ซอร์ส” (outsourcing) ให้บริษัทไต้หวันชื่อ Asus ทำงานแทนทีละอย่าง — เริ่มจากวงจรเล็กๆ ไปจนถึงการประกอบทั้งเครื่อง
เดลล์ทำแบบนี้เพื่อประหยัดต้นทุน และดูดีในสายตานักลงทุน เพราะตัวเลขกำไรสูงขึ้น
แต่สิ่งที่เดลล์มองข้ามไปคือ: มันได้เอาท์ซอร์ส “ความสามารถหลัก” (core capability) ของตัวเองออกไปทีละน้อย
สุดท้าย Asus ก็ใช้ความรู้ที่ได้จากเดลล์มาสร้างแบรนด์ตัวเอง และกลายเป็นคู่แข่งโดยตรง
เดลล์ที่เคยควบคุมทุกอย่าง กลายเป็นบริษัทที่แค่ติดโลโก้บนเครื่องที่คนอื่นทำให้
ความเชื่อมโยงกับการเลี้ยงลูก: เมื่อเราทำแทนลูกทุกอย่าง
เช่นเดียวกับพ่อแม่ที่ช่วยลูกตลอดเวลา — ทำการบ้านแทน พาไปติว พาไปซ้อมกีฬา จัดเวลาให้ ทำตารางชีวิตให้ — สิ่งที่ลูกเสียไปคือ สมรรถนะในการจัดการชีวิตเอง
เราคิดว่าเรากำลัง “สนับสนุน” แต่บางครั้งเรากำลัง “เอาท์ซอร์สทักษะ” สำคัญที่ลูกควรมี
ความเข้าใจเรื่อง “สมรรถนะ” (Capability): หัวใจของบทนี้
ผู้เขียนเสนอว่า สมรรถนะของคนหรือองค์กรประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก:
- ทรัพยากร (Resources): เช่น ความรู้ ทักษะ เงิน เวลา
- กระบวนการ (Processes): วิธีคิด วิธีแก้ปัญหา วิธีตัดสินใจ
- ลำดับความสำคัญ (Priorities): สิ่งที่เลือกให้ความสำคัญก่อน-หลัง
พ่อแม่ที่มุ่งให้ทรัพยากรกับลูกอย่างเดียว (พาเรียน พาซ้อม พาเตรียม) แต่ไม่ให้ลูกได้ฝึกกระบวนการ หรือฝึกตัดสินใจ (priority) ด้วยตัวเอง กำลังทำให้ลูก “อ่อนแอทางความสามารถ” โดยไม่รู้ตัว
เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่คิดเองเป็น ตัดสินใจเองได้ และมีภูมิคุ้มกันต่อชีวิต ก็ด้วยการ “ได้ลงมือทำเอง” โดยพ่อแม่ไม่เข้าไปจัดการทุกอย่างให้
บทเรียนสำหรับพ่อแม่: อย่ากลัว ให้ลูกล้มบ้าง — เพราะนั่นคือการสร้างความแข็งแกร่ง
สิ่งสำคัญที่สุดที่พ่อแม่ควรให้ลูก ไม่ใช่แค่โอกาสหรือทรัพยากร
แต่คือ ประสบการณ์ในการพัฒนาสมรรถนะของตนเอง — ด้วยการได้ล้ม ได้ลองผิดลองถูก ได้คิดเอง ทำเอง และรับผลจากการตัดสินใจของตัวเอง
แทนที่จะพยายามปกป้องลูกจากปัญหาทุกอย่าง ลองเปลี่ยนมาเป็นโค้ชที่คอยถาม คอยสะท้อน ให้ลูกได้ “คิดเอง” มากขึ้นในแต่ละเรื่อง
หากเราอยากให้ลูกล่องเรือของตัวเองอย่างมั่นคง ก็ต้องยอมให้พวกเขาได้ซ่อมเรือเองบ้างในบางครั้ง ถึงแม้มันจะไม่สมบูรณ์ที่สุด แต่มันจะเป็น “เรือของเขาเอง” ไม่ใช่เรือที่พ่อแม่ต่อไว้ให้ทุกชิ้น